มาตรฐานวิชาชีพเรื่องที่ 10 รายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน
ในการจัดทำและนำเสนอรายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ผู้ประเมินต้องปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้
10.1 รายงานการประเมินต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจนและเพียงพอแก่ผู้ใช้รายงานในเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการ ประเมิน การวิเคราะห์ การสรุปมูลค่า และการให้ความเห็นของผู้ประเมิน
10.2 หากมีการร้องขอให้ผู้ประเมินนำเสนอรายงานการประเมินที่กำหนดโดยผู้ใช้รายงานและผู้ประเมิน เห็นว่ารูปแบบการนำเสนอรายงานการประเมินนั้นมีความขัดแย้งหรือไม่สอดคล้องอย่างมีนัยสำคัญ กับมาตรฐานนี้ ผู้ประเมินจะต้องทำความเข้าใจกับผู้ใช้รายงานให้ชัดเจนถึงประโยชน์ที่จะได้รับ หากปฏิบัติตามมาตรฐาน ตลอดจนผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ปฏิบัติตาม
10.3 การนำเสนอรายงานการประเมินจะจดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอื่นก็ได้ กับข้อตกลงระหว่าง ผู้ประเมินกับผู้ใช้รายงาน และผู้ประเมินมีหน้าที่ที่จะต้องทำความเข้าใจกับผู้ใช้รายงานเกี่ยวกับ ความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่บังคับใช้ในประเทศไทย
10.4 มาตรฐานของรูปแบบรายงานการประเมินที่ถือว่าถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐานอย่างน้อย ต้องประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆ ดังต่อไปนี้
10.4.1 ผู้รับรายงาน : ให้ระบุชื่อลูกค้าผู้รับบริการและผู้ใช้รายงานการประเมิน
10.4.2 คำสั่งและเงื่อนไขในการว่าจ้างงาน: ให้ระบุคำสั่งและเงื่อนไขในการว่าจ้างงานในรายงาน การประเมินให้ชัดเจน
10.4.3 วัตถุประสงค์ของการประเมิน : ให้ระบุถึงวัตถุประสงค์ของการประเมิน หรือการนำรายงาน การประเมินไปใช้ประโยชน์ตามที่กำหนดโดยลูกค้าผู้รับบริการเช่น พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ที่อยู่อาศัย เพิ่มวงสินเชื่อเดิม เป็นต้น รวมทั้งต้องระบุให้ชัดเจนว่ารายงานนี้ไม่อาจใช้ได้สำหรับ วัตถุประสงค์อื่นและผู้ต้องการใช้ประโยชน์จากรายงานรายอื่นที่มิได้ระบุในรายงาน
10.4.4 หลักเกณฑ์การประเมิน : ให้ระบุให้ชัดเจนว่า เป็นหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อกำหนด มูลค่าตลาดหรือหลักเกณฑ์การประเมินที่มิใช่กำหนดมูลค่าตลาด
10.4.5 รายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ประเมิน:
(1) ประเภททรัพย์สิน
(2) รายละเอียดที่ตั้งทรัพย์สิน : ให้ระบุบ้านเลขที่ ซอย ถนน และ/หรือระยะทางโดยประมาณ จากถนนสายหลักหรือทางแยกที่ใกล้ที่สุด ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต จังหวัด
(3) รายละเอียดเกี่ยวกับที่ดิน : รายละเอียดรูปแปลงที่ดิน ความกว้างความลึกของแปลงที่ดิน เนื้อที่ ระดับที่ดินโดยประมาณ
(4) รายละเอียดเกี่ยวกับอาคารและสิ่งปลูกสร้าง : ให้ระบุข้อมูลดังต่อไปนี้
ก. ประเภทอาคาร ความสูงหรือจำนวนชั้นของอาคาร ขนาดพื้นที่ก่อสร้างหรือพื้นที่ ใช้สอย การใช้ประโยชน์พื้นที่แต่ละชั้นภายในอาคาร
ข. รายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร โครงสร้างและวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและ ตกแต่ง อายุอาคาร สภาพอาคาร การใช้ประโยชน์ของอาคาร การบำรุงรักษาพื้นที่ อาคาร งานระบบและบริการสาธารณูปโภคที่มีให้บริการในอาคาร
ค. ผู้ประเมินต้องทำการตรวจสอบอาคารทั้งภายในและภายนอก เว้นแต่มีเหตุขัดข้อง สุดวิสัยหรือมีข้อตกลงพิเศษอื่นใดโดยต้องระบุในรายงานการประเมินอย่างชัดเจน
ง. ในการตรวจสอบอาคาร หากพบว่าอาคารมีสภาพชำรุดทรุดโทรม มีการทรุดตัว ของอาคารซึ่งอาจมีปัญหาการวิบัติของโครงสร้างหรือมีผลกระทบที่สำคัญต่อ มูลค่าอาคาร ต้องระบุในรายงานการประเมินให้ชัดเจน
จ. ผู้ประเมินต้องใหความเห็นและแสดงข้อมูลและรายละเอียดที่ชัดเจนรวมถึง อาจให้ความเห็นว่าควรจะทำการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง (structural survey)โดยผู้ชำนาญการหรือไม่
ฉ. ผู้ประเมินต้องทำการตรวจสอบว่าอาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารถูกต้อง ตามตำแหน่งที่ระบุหรือไม่ หากมีข้อสังเกตหรือการปลูกสร้างรุกล้ าบนที่ดิน แปลงอื่น ผู้ประเมินต้องให้ข้อมูลหรือรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมถึง ปัญหาหรือผลกระทบที่อาจมีต่อมูลค่าของทรัพย์สิน
ช. ในกรณีที่อาคารไม่มีเลขที่หรือไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการขออนุญาตหรือก่อสร้าง อาคารตรงตามแบบหรือไม่ ซึ่งอาจมีปัญหาต่อการใช้อาคารได้ ผู้ประเมินพึงต้อง ระบุเงื่อนไข และรายละเอียดที่ชัดเจนในรายงานการประเมิน
ซ. อาคารที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างให้ระบุงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จในปัจจุบัน ต้นทุนค่าก่อสร้างที่ได้ใช้ไปแล้วจนถึงวันที่ประเมิน งานก่อสร้างที่ยังต้องดำเนินการ เพื่อให้เสร็จสนสมบูรณ์พร้อมทั้งต้นทุนโดยประมาณ กำหนดเวลาแล้วเสร็จ ตาม แผนการก่อสร้างปัจจุบันโดยประมาณ ส่วนที่ถูกกำหนดให้มีการก่อสร้างทาง ท่อระบายน้ำหรือสิ่งอำนวยประโยชน์อื่นเพื่อสาธารณประโยชน์และเงื่อนไขอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการก่อสร้าง
10.4.6 ทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อม : ให้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อม ของทรัพย์สินที่ประเมิน เป็นต้นว่า
(1) การใช้ประโยชน์ของที่ดินโดยรอบในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต ตลอดจนผลดีหรือผลเสียต่อทรัพย์สินที่ประเมิน
(2) การคมนาคม ระบบขนส่งมวลชน ความสะดวกในการเดินทางจากทรัพย์สินที่ประเมิน ไปยังสถานที่ต่างๆ
(3) สถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียง
(4) สาธารณูปโภคและสาธารณูปการในบริเวณที่ตั้งทรัพย์สิน
(5) รายละเอียดสภาพแวดล้อมที่พอสังเกตเห็นได้เช่น น้ำท่วม ระบบระบายน้ำที่อาจมี ปัญหามลพิษในบริเวณ
10.4.7 สมมติฐาน : ให้ระบุรายละเอียดสมมติฐานเพิ่มเติมหรือสมมติฐานพิเศษที่ผู้ประเมินเห็นว่า
อาจส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าของทรัพย์สินที่ประเมิน
10.4.8 เงื่อนไขและข้อจำกัดในการประเมิน: ให้ระบุเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ใช้ในการประเมินให้ชัดเจน
10.4.9 ลักษณะสิทธิตามกฎหมายในทรัพย์สิน : ให้ระบุสิทธิครอบครองของทรัพย์สินที่ประเมิน อย่างชัดเจนว่าเป็นกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครอง หรือสิทธิการเช่า หรือกรรมสิทธิ์ที่ติด ภาระการให้เช่า หรือกรรมสิทธิ์รวม หรือการถือกรรมสิทธิ์เป็นเพียงบางส่วนหรือเฉพาะส่วน ที่พอจะประมาณได้ และหากทรัพย์สินที่ประเมินติดภาระผูกพันเกี่ยวกับสัญญาเช่าให้ระบุ สาระสำคัญของสัญญาเช่า รวมถึงผู้เช่า ผู้ให้เช่าและเจ้าของกรรมสิทธิ์สมบูรณ์อายุการเช่า ตามสัญญาและ อายุการเช่าคงเหลือ ผลตอบแทนการเช่าและการปรับอัตราค่าเช่าด้วย
10.4.10 ทางเข้าออกตามกฎหมายของทรัพย์สิน: ให้ระบุทางเข้าออกของทรัพย์สิน ระยะทาง โดยประมาณแต่ละระยะเฉพาะทางที่ใช้เข้าออกโดยสะดวกจนถึงถนนสายหลักประเภท ทางเข้าออกเป็นทางสาธารณะหรือทางส่วนบุคคล หากเป็นทางส่วนบุคคลทรัพย์สินได้รับ ภาระจำยอมหรือไม่ จากที่ดินแปลงใด และในลักษณะอย่างใด
10.4.11 การตรวจสอบเอกสารสิทธิ: ให้ระบุรายละเอียดและผลการตรวจสอบเอกสารสิทธิทรัพย์สิน
ที่ประเมินและการตรวจสอบภาระผูกพันที่มีการจดทะเบียนไว้ โดยให้แสดงรายละเอียดไว้ในรายงานการประเมินอย่างชัดเจนเช่น ภาระจำยอม สิทธิเก็บกิน การจำนองขายฝากเป็นต้น ในกรณีที่เป็นการประเมินสัญญาเช่าต้องทำการตรวจสอบสัญญาเช่าและให้รายละเอียด เกี่ยวกับสัญญาเช่า อัตราค่าเช่า อายุการเช่า ชื่อผู้เช่า หรือข้อจำกัดสิทธิต่างๆ ที่มีผลกระทบ
ต่อการเช่า เช่นการเช่าช่วง การโอนสิทธิการเช่าพร้อมทั้งให้ข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับ
ข้อมูลเช่าที่มีผลกระทบต่อมูลค่า เป็นต้น
10.4.12 การตรวจสอบยืนยันที่ตั้งทรัพย์สิน : ให้ระบุว่าสามารถยืนยันตำแหน่งที่ตั้งที่ดินตามเอกสาร สิทธิที่ปรากฏหรือการนำชี้ได้หรือไม่ ถ้ามีเหตุพึงสงสัยหรือไม่แน่ใจ ควรระบุสิ่งที่ตรวจพบ และควรยืนยันด้วยว่า อาคารและส่วนปรับปรุงอื่นปลูกสร้างบนที่ดินแปลงที่ประเมินหรือไม่ อย่างไร
10.4.13 ข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง : ให้ระบุรายละเอียดและผลการตรวจสอบข้อกำหนด
ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของทรัพย์สินที่ประเมิน ได้แก่
(1) ข้อกำหนดการใช้ที่ดินในผังเมืองฉบับปัจจุบันในพื้นที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
(2) ข้อกำหนดหรือกฎหมายควบคุมอาคาร
(3) ข้อกำหนดหรือกฎหมายควบคุมสิ่งแวดล้อม
(4) การตรวจสอบการเวนคืนจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเช่น การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง และกรมโยธาธิการ เป็นต้น โดยให้ระบุถึงขั้นตอนความคืบหน้าของ โครงการที่อาจมีผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สิน
(5) การถูกรอนสิทธิต่างๆ
(6) ข้อบังคับของทางราชการอื่นใดที่อาจมีผลต่อการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สิน
10.4.14 ข้อมูลตลาด : ให้ระบุรายละเอียดของข้อมูลตลาดที่นำมาใช้อ้างอิงเปรียบเทียบกับทรัพย์สิน ที่ประเมิน เป็นต้นว่า ประเภททรัพย์สิน ขนาดของที่ดินหรือพื้นที่ ลักษณะและข้อมูลสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่นำมาใช้เป็นข้อมูลตลาด วันที่เกิดรายการซื้อขาย และแหล่งที่มา ของข้อมูลตลาด
10.4.15 วันที่ประเมิน : โดยทั่วไปให้หมายถึงวันที่สำรวจทรัพย์สิน หากวันที่นำส่งรายงานการประเมิน กับวันที่ประเมินมีระยะเวลาห่างกัน ผู้ประเมินควรระบุเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในตลาดและในทรัพย์สินที่ประเมินอย่างมีนัยสำคัญที่จะส่งผลต่อมูลค่าของทรัพย์สิน
10.4.16 วิธีการประเมิน : ให้บรรยายถึงวิธีการประเมินที่เลือกใช้พร้อมเหตุผล
10.4.17 การวิเคราะห์และสรุปมูลค่าทรัพย์สิน: ให้อธิบายถึงการวิเคราะห์และกำหนดมูลค่าทรัพย์สิน ที่ประเมินให้ชัดเจน รวมทั้งสรุปความเห็นของผู้ประเมินและระบุมูลค่าทรัพย์สินที่ประเมิน
10.4.18 การมีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์สินที่ประเมิน : ให้ระบุตามข้อเท็จจริงว่าผู้ประเมินมีส่วนได้เสีย
หรือมีความเกี่ยวข้องไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกับทรัพย์สินที่ประเมินหรือผู้ว่าจ้างหรือไม่
10.4.19 การลงลายมือชื่อ : ผู้ประเมินต้องลงลายมือชื่อ รวมทั้งระบุเลขที่สมาชกและสมาคมวิชาชีพที่ผู้
ประเมินสังกัด
10.4.20 เอกสารประกอบรายงาน: สำเนาเอกสารสิทธิ แผนที่แสดงที่ตั้งของทรัพย์สินที่ประเมิน
และข้อมูลเปรียบเทียบ ผังบริเวณผังที่ดิน แปลนอาคาร ใบอนุญาตปลูกสร้างและใบอนุญาต การใช้อาคาร ภาพถ่ายแสดงรายละเอียดทรัพย์สินที่ประเมิน สัญญาเช่าและเอกสารอื่นที่จำเป็น
10.5 ในกรณีทรัพย์สินที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา นอกจากการนำเสนอรายงานการประเมินตามรูปแบบ ข้างต้นแล้ว ควรระบุรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องดังต่อไปนี้
10.5.1 รายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยต้องระบุว่าได้รับใบอนุญาตจัดสรร และใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างแล้วหรือไม่ และอยู่ในขั้นตอนใด เป็นการ ได้รับอนุญาตโดยมีเงื่อนไขหรือไม่
10.5.2 รายละเอียดเกี่ยวกับงานการพัฒนาหรืองานก่อสร้างส่วนที่แล้วเสร็จในปัจจุบัน ต้นทุน ก่อสร้างที่ได้ใช้ไปแล้วจนถึงวันที่ประเมิน งานก่อสร้างที่ยังต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ตามโครงการ กำหนดเวลาแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามโครงการ เงื่อนไขที่ถูกกำหนดให้มีส่วนที่ต้องแบ่งเป็นพื้นที่สาธารณูปโภค เงื่อนไขอื่นที่มีนัยสำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบ ต่อการพัฒนาตามโครงการ
10.5.3 ภาระผูกพันที่เกี่ยวกับการขายหรือการให้เช่าสำหรับทรัพย์สินที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งมีปรากฏ ณ วันที่ประเมิน
10.5.4 การให้ความเห็นเกี่ยวกับมูลค่าของทรัพย์สินประกอบด้วย
(1) ประมาณต้นทุนการก่อสร้างหรือต้นทุนการพัฒนา และประมาณการต้นทุนที่ต้องใช้ เพื่อให้โครงการเสร็จสมบูรณ์(กรณีที่สร้างเสร็จไปแล้วบางส่วน)
(2) ประมาณการมูลค่าตามสภาพปัจจุบัน ณ วันที่ประเมิน
(3) ประมาณการมูลค่าทรัพย์สินเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามโครงการตามสภาพตลาด ณ วันที่ประเมิน โดยมีเงื่อนไขว่าการพัฒนาเป็นไปตามแบบรายละเอียดที่ระบุ
10.6 การนำเสนอรายงานการประเมินที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานนี้สามารถกระทำได้ในกรณีที่เป็นการ สอบทานการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งจะต้องดำเนินการตามมาตรฐานที่เกี่ยวกับการสอบทาน การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน